History
ยุคแรกของการก่อตั้ง [The Early Years]

        สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งโดย จอห์น โฮลดิ้ง [John Houlding] ผู้เป็นเจ้าของที่ดินแอนฟิลด์ ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้ผู้ที่ครอบครองเป็นเจ้าของพื้นที่ คือ ทีมเอฟเวอร์ตัน [Everton FC] ภายหลังเกิดความขัดแย้งกันเกิดขึ้น ระหว่างคณะกรรมการสโมสร กับ จอห์น โฮลดิ้ง ทำให้ทีมเอฟเวอร์ตัน ต้องโยกย้ายไปยังสถานที่ใหม่นั่นก็คือ กูดิสัน ปาร์ค [Goodison Park] อันเป็นที่ตั้งของทีมเอฟเวอร์ตันจนมาถึงทุกวันนี้  ถึงแม้ว่าจะมีสนาม แต่ว่าไม่มีนักฟุตบอล ทำให้จอห์น โฮลดิ้ง ต้องหานักฟุตบอลมา 10 คน พร้อมกับตั้งทีมฟุตบอลขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อทีมว่า "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 1892
            เริ่มต้นก่อตั้งทีมครั้งแรก ต้องเล่นอยู่ในระดับดิวิชั่น 2 [Division 2] เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแรกเท่านั้น ได้เลื่อนชั้นไปเล่นในระดับดิวิชั่น 1 [First League Division] ภายใต้การควบคุมของผู้จัดการทีม ทอม วัตสัน [Tom Watson] ซึ่งเริ่มต้นนำพาทีมก้าวขึ้นสู่ชัยชนะสร้างเกียรติยศชื่อเสียง ด้วยการเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1    อ่านต่อ  

ยุคของ บิล แชงค์ลี่ย์ [The Coming of Shankly]  
        จากปี 1954 จนกระทั่งถึงปี 1959 ลิเวอร์พูลยังต้องเล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 ในเดือนธันวาคม ปี 1959 สุภาพบุรุษคนสำคัญ ที่เรียกว่า "Great Man" บิล แชงค์ลี่ย์ ได้เดินทางเข้ามาสู่ถิ่น "แอนฟิลด์" นำพาลิเวอร์พูลกลับคืนสู่ดิวิชั่น 1  ฤดูกาลที่ 1963-64 บิล แชงค์ลี่ย์นำทีมครองแชมป์ได้อีกครัง พร้อมกับปี 1965 ได้แชมป์เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรก ด้วยการเอาชนะ ทีมลีด ยูไนเต็ด [Leed United] ไปด้วย 2-1 โดยการยิงประตูของ เอียน เซ้นจอห์น [Ian St John] ในช่วงต่อเวลาการแข่งขัน บิล แชงค์ลี่ย์ยังสร้างทั้งผลงานและสถิติใหม่ขึ้นมาให้กับหงส์แดง อย่างต่อเนื่อง  เมื่อทำให้ลิเวอร์พูลก้าวขึ้นมาสู่การเป็นแชมป์สโมสรยุโรป ยูฟ่า คัพ [UEFA CUP]  อ่านต่อ
ยุคของ บ๊อบ เพลสลี่ย์ [Paisley's Reign]

       บ๊อบ เพลสลี่ย์ ผู้จัดการทีมที่กลายเป็นตำนานของสโมสรลิเวอร์พูล เป็นทีมงานหลังห้องของสโมสร [bootroom staff] ที่ต้องรับช่วงความสำเร็จและสานงานต่อจาก บิล แชงค์ลี่ย์ เพียงแค่ 2 ปีก็พาลิเวอร์พูลได้แชมป์ดิวิชั่น 1 อีกครั้ง บ๊อบ เพลสลี่ย์ เป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษ เป็นผู้จัดการทีมทีมีส่วนสำคัญต่อการวางรากฐานให้กับสโมสรในอนาคต ในปี 1977 ตัดสินใจซื้อ เคนนี่ เดลกลิช [Kenny Delglish] มาจากกลาสโกว์ เซลติค [Celtic] ในระยะเวลา 9 ปีของการเป็นผู้จัดการทีม บ๊อบ เพลสลี่ย์ พาลิเวอร์พูลได้แชมป์ถึง 13 แชมป์ 6 แชมป์ดิวิชั่น 1 , 3 แชมป์ลีก คัพ, 3 แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ, 1 แชมป์ยูฟ่า คัพ

ช่วงทศวรรษที่ 80 [The Eighties]
                 หลังจากที่ บ๊อบ เพลสลี่ย์ ปลดเกษียณออกไปด้วยวัย 64 ในปี 1983    โจ เฟแกน [Jo Fagan] ต้องก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทน เนื่องจากเคยเป็นมือขวาของ บ๊อบ เพลสลี่ย์มาก่อน [bootroom staff]   โจ เฟแกน เข้ามาทำหน้าที่ด้วยวัย 62 ปี ใช้เวลาในระยะสั้นแค่ 2 ปีในการคุมทีมลิเวอร์พูล แต่คว้าแชมป์ได้ถึง 3 แชมป์ภายในฤดูกาลแรกที่คุมทีม แต่ในฤดูกาลที่ 2 ผลงานของโจ เฟแกนไม่น่าประทับใจ เมื่อพลาดการได้แชมป์ดิวิชั่น 1 และวันสุดท้ายก่อนจบฤดูกาลต้องแข่งขันนัดชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพ กับทีมจูเวนตัส [Juventus] ในปี 1985 ที่เมืองเฮย์เซลล์ประเทศเบลเยียม ได้เกิดโศกนาฎกรรมความหายนะของแฟนบอลถึง 39 คน เมื่อกำแพงผนังกั้นสนามเกิดยุบตัวพังลงมาทับแฟนบอลลิเวอร์พูล ในครั้งนั้นทำให้ โจ เฟแกน ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมไปในทันที    อ่านต่อ
ยุคของการเปลี่ยนแปลง [The Rebuilding]

      เมื่อ แกรม ซูเนสส์ [Garmes Sunness] ก้าวเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูลในปี 1991 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประสบความสำเร็จกับทีมกลาสโกว์ แรงเจอร์ [Glasgol Rangers] มาแล้ว การเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จ เพียงแค่รักษาความสำเร็จนั้นให้ได้    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับซูเนสส์กลับกลายเป็นปัญหาและความแตกแยกออกมาอย่างมากมาย  ฤดูกาลแรกทำทีมได้เพียงอันดับที่ 6 แต่สามารถรักษาแชมป์เอฟเอ คัพ ด้วยการเอาชนะทีมซันเดอร์แลนด์ [Sunderland] ในรอบชิงไป 2-0
           ในฤดูกาลต่อมา แกรม ซูเนสส์ ต้องล้มป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องรักษาในโรงพยาบาล หลังจากนั้นเขาก็นำเรื่องราวของเขาขายให้แก่หนังสือพิมพ์ และเขียนเรื่องไม่จริงเกี่ยวกับโศกนาฎกรรมที่ฮิลส์โบโร่ ยิ่งสร้างความฉุนเฉียวโกรธแค้นให้แก่แฟนบอลมากขึ้น ทำให้เกิดความแตกแยกและอยากที่จะยุติ    อ่านต่อ
  


Copyright by Thaikop Team 2002. Contact Us : Joichoo@hotmail.com